บทความแนะนำร้านเย็บผ้า
ชื่อ ร้านน้องอาร์ม กับ ร้านช่างโชค (ร้านเย็บผ้าหน้าวงเวียน) หน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ขามเรียง ตรงกับวงเวียนพอดี หรือข้างโรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคมทางด้านทิศตะวันออก แต่เดิม บริเวณนี้เป็นป่าหน่อไม้ ป่าเห็ด ป่าติ้ว โดยรวมแล้วบริเวณดังกล่าวเป็นทุ่งนาผสมป่าไม้ และเป็นที่เลี้ยงวัว ควาย ของชาวบ้านสมัยก่อน ร้านเย็บผ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2546 แต่ก่อนถนนยังเป็นถนนดินแดน วงเวียนก็ยังไม่
*ร้านแรกที่มาเปิดให้บริการเย็บผ้า คือ ร้านนายกมล ช่างสากล (ช่างเกณฑ์) ท่านศึกษาที่โรงเรียนคนพิการและท่านก็เป็นช่างคนพิการที่สู้ชีวิต
*ร้านที่ 2 คือ ร้านน้องอาร์ม เจ้าของร้านชื่อ นางเมธิญา วังหน้า เบอร์โทรศัพท์ 081-1835359
*ร้านที่ 3 คือ ร้านช่างโชค เจ้าของร้านชื่อ นายศุภโชค สุดสายเนตร เบอร์โทรศัพท์ 084-9565514
ปัจจุบันเหลือเพียง 2 ร้านเท่านั้นคือ ร้านน้องอาร์ม และ ร้านช่างโชค
ร้านดังกล่าว เปิดให้บริการเย็บผ้าทุกชนิด อาทิเช่น เปลี่ยนรูปทรง ปะ เข้าซิป เสื้อ กางเกง กระโปง หรือเสื้อทุกชนิด (ทำตัวใหญ่ให้เป็นตัวเล็ก ทำตัวเล็กให้เป็นตัวใหญ่) และเพิ่มมาอีกก็คือซ่อมกระเป๋า รองเท้า เข็มขัด ถ้าว่าไปแล้วก็เป็นงานเย็บทุกชนิด ที่เป็นงานซ่อม งานออกแบบ และงานฝีมือ
กลุ่มที่มาใช้บริการส่วนใหญ่ เป็น นักเรียน นักศึกษา นิสิต ครู-อาจารย์ ข้าราชการกรงกระทรวงต่างๆ แม่ค้าพ่อค้า และประชาชนทั่วไป ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
สภาพทั่วไปภายในร้าน บรรยากาศดี อากาศถ่ายเทสะดวก เจ้าของร้านใจดี พูดจาไพเราะอ่อนหวาน เป็นกันเองกับผู้ใช้บริการ ราคาคุ้มค่ายุติธรรม และรับรองคุณภาพทุกชิ้น
ช่วงเวลาที่เปิดทำการ 07.00 น. ถึง 20.00 น.
ภาพนิสิตผู้ดำเนินการจักทำบทความ
*ร้านที่ 2 คือ ร้านน้องอาร์ม เจ้าของร้านชื่อ นางเมธิญา วังหน้า เบอร์โทรศัพท์ 081-1835359
*ร้านที่ 3 คือ ร้านช่างโชค เจ้าของร้านชื่อ นาย
ภาพบรรยากาศภายในร้านทั้งด้านในและด้านนอน
ข้อมูลทั่วไปอื่นๆ
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า (เนินดินสูงจากพื้นธรรมดาประมาณ 3 เมตร ) ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม
ประวัติ
ตามตำนานอุรังคธาตุ กล่าวว่า ท้าวพญาทั้งห้าผู้เป็นใหญ่ ได้แก่พญาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหานหลวง พญาคำแดง เจ้าเมืองหนองหานน้อย พญาจุลณีพรหมทัต เจ้าเมืองจุลนีพรหมทัต พญาอินทรปัตถ์ เจ้าเมืองอินทปัตถนคร และพญานันทเสน เจ้านครศรีโคตรบูรณ์อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุ ได้สร้างอูบมูงขึ้นเพื่อประดิษฐานพระอุรังคธาตุ ตามพุทธพยากรณ์ โดยก่อสร้างด้วยดินดิบ (อิฐดิบ) ฐานพระธาตุพนมได้ขุดลงไปจนเป็นอูบมุง (อุโมง) เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กระดูกส่วนหน้าอก เมื่อก่อด้วยดินดิบเสร็จแล้ว จึงได้ก่อไฟเผาพระธาตุเป็นเวลากว่าหลายวัน อิฐจึงได้แห้งสนิทจรดกัน ในพระธาตุพนม บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า ซึ่งประมาณ พ.ศ. 8 พระอุตรเถระและพระโสณเถระ สมรทูตของพระเจ้าอโศกมหาราช ได้อัญเชิญมา และพระมหากัสสปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้บนภูกำพร้า ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ พระธาตุพนมได้รับการบูรณะและอุปถัมภ์โดยกษัตริย์แห่งล้านช้าง
- พ.ศ. 2223-2225 และเป็นรูปแบบที่นิยมในอีสาน
- พ.ศ. 2233 พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) ปฏิสังขรณ์พระธาตุให้สูงขึ้น
- พ.ศ. 2483 รัฐบาลได้บูรณะให้สูงขึ้น
- พ.ศ. 2518 องค์พระธาตุพนมชำรุดล้มลง ทางราชการได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นใหม่ ให้คงสภาพเดิม
- พ.ศ. 2522 การบูรณะโดยภาครัฐและเอกชน
เมื่อปี พ.ศ. 2485 วัดพระธาตุพนมฯ ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร" ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.38 น. ด้วยเหตุที่มีฝนตกพายุพัดแรงติดต่อมาหลายวันและความเก่าแก่ขององค์พระธาตุ พระธาตุพนมจึงได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 นอกจากจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระธาตุดั่งเดิมแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้นบรรจุและประดับไว้ในองค์พระธาตุอีกด้วย โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม
บ่อน้ำวัดพระธาตุพนม
น้ำบ่อวัดพระธาตุพนม ตั้งอยู่ทางทิศเหนือขององค์พระธาตุ บริเวณกำแพงชั้นนอก ห่างจากพระธาตุพนมประมาณ 30 วา (60 เมตร ) บ่อ กว้าง 1.50 เมตร ลึก 10 เมตร กรุข้างบ่อด้วยไม้แดง บ่อน้ำเก่าแก่ น้ำใส รสจืดสนิท และมีน้ำอยู่ตลอดปี ราษฎรส่วนมากใช้น้ำในบ่อนี้เป็นน้ำดื่ม และใช้เป็นน้ำอภิเษกของจังหวัดนครพนมมีอยู่เพียงแห่งเดียว สถานที่ประกอบพิธีน้ำอภิเษก คือ บ่อน้ำพระอินทร์บริเวณพระธาตุพนม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น